น้ำตกปิตุ๊โกร ตั้งอยู่บนเทือกเขาสามหมื่นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก น้ำตกแห่งนี้ถือว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่และสูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูงกว่า 500 เมตร ซึ่งสูงกว่าตึกใบหยกเกือบสองเท่า ความโดดเด่นของน้ำตกปิตุ๊โกรคือการที่สายน้ำสองสายไหลจากดอยมะม่วงสามหมื่นมาบรรจบกันที่หน้าผาสูง ทำให้เกิดเป็นรูปหัวใจเมื่อมองจากมุมสูง น้ำตกแห่งนี้จึงเป็นที่รู้จักในชื่อ “น้ำตกรูปหัวใจ”
การเดินทางสู่ปิตุ๊โกร
เริ่มจากอำเภออุ้มผาง ใช้เส้นทางสายอุ้มผาง-บ้านเปิงเคลิ่ง ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจนถึงหมู่บ้านกุยเลอตอ จากนั้นต้องเดินเท้าลัดเลาะผ่านเทือกเขาและลำธาร ใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงจนถึงจุดตั้งแคมป์ หลังจากนั้นต้องเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกอีกประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเส้นทางนี้เต็มไปด้วยทางดินและโคลนที่เฉอะแฉะจากฝนที่ตกลงมาเกือบทุกวัน ทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบากและต้องระวังการลื่น นักท่องเที่ยวจะได้ประสบการณ์การเดินลุยโคลนที่ท้าทาย แต่ก็สนุกสนานและสร้างความประทับใจไปพร้อมกัน
น้ำในลำห้วยปิตุ๊โกรใสสะอาด ซึ่งบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของป่าเหนือห้วยนี้ บริเวณป่ามีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เช่น ไผ่หก ไผ่นวล ไผ่ผาก และต้นไม้ยืนต้นอื่น ๆ เช่น ยางนา มะค่าโมง ชิงชัน และตะเคียน เส้นทางสู่ปิตุ๊โกรต้องเดินขึ้นเขาผ่านแนวสันเขา และในบางครั้งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นหมอกที่ปกคลุมสายน้ำตก สร้างบรรยากาศที่งดงามและเงียบสงบ
ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์และป่าเขาที่สมบูรณ์แบบ ชาวบ้านเล่าว่าในอดีตน้ำตกนี้เป็นที่รู้จักเฉพาะในกลุ่มชาวบ้านเท่านั้น จนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวคนแรกที่มาเยี่ยมชมและเผยแพร่ภาพในโซเชียลมีเดีย น้ำตกปิตุ๊โกรจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง
คำแนะนำ
เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างท้าทายและใช้เวลานาน ควรเตรียมตัวให้พร้อมด้วยอุปกรณ์เดินป่าที่เหมาะสม น้ำดื่ม อาหารพกพา และควรมีไกด์ท้องถิ่นนำทางเพื่อความปลอดภัย
ความเชื่อและตำนานเกี่ยวกับปิตุ๊โกร
มีเรื่องเล่าจากชาวบ้านว่า นางมึเหล่ ซึ่งเคยอาศัยอยู่บริเวณน้ำตกปิตุ๊โกร ได้จัดพื้นที่สำหรับทำบุญและสร้างเจดีย์ทรายขึ้นที่นั่น นางมีความสามารถในการติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และได้รับคำแนะนำให้ย้ายออกจากบริเวณน้ำตกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย ครอบครัวของนางอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ประมาณ 3-4 ปี ก่อนที่จะย้ายออกเนื่องจากถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์รบกวน
ในอดีต ชาวบ้านมองน้ำตกปิตุ๊โกรเป็นเพียงธรรมชาติที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อนักท่องเที่ยวคนหนึ่งได้นำภาพถ่ายของน้ำตกไปเผยแพร่ในโลกโซเชียล น้ำตกปิตุ๊โกรก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัย การท่องเที่ยวที่น้ำตกปิตุ๊โกรเริ่มต้นจากกลุ่มเล็ก ๆ และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย
การบริหารจัดการและการอนุรักษ์
เนื่องจากน้ำตกปิตุ๊โกรเป็นพื้นที่ป่าชุมชน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ร่วมมือกันเพื่อปกป้องและรักษาพื้นที่ป่าไว้ ในปี พ.ศ. 2562 น้ำตกปิตุ๊โกรได้รับการประกาศว่าอยู่ในเขตของป่าชุมชนและให้ชุมชนดูแล ต่อมาในปี พ.ศ. 2563-2564 ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ วิทยาลัยชุมชนตากได้เข้ามาส่งเสริมการจัดทำโครงสร้างคณะกรรมการการท่องเที่ยว เพื่อให้ชุมชนสามารถดูแลและบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
น้ำตกปิตุ๊โกรจึงไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน